ฝ่าวิกฤตผลกระทบสงคราม!!! : ประเด็นหลังจากเกม สิงห์บลู บุกคว้าสามแต้มเหนือ นอริช

บอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
คืนวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2022

นอริช 1-3 เชลซี

สนาม: แคร์โรว โร้ด

1. เชลซี จำต้องวิงแบ็คธรรมชาติแค่นั้น

เกมนี้เป็นอีกนัดที่ โธมัส ทูเคิล จัดการทดสอบเอานักฟุตบอลตำแหน่งอื่นมายืนทำหน้าที่เป็นวิงแบ็คอีกรอบ โดยฝั่งซ้ายใช้งาน ซาอูล นิเกวซ ลงทำแทน มาร์กอส อลอนโซ ที่ติดโควิด ซึ่งแม้จะไม่ได้ย่ำแย่แต่ว่าเห็นได้ชัดถึงความไม่เป็นธรรมชาติในการสร้างสรรค์เกมรุกต่างจาก อัซปิลิกวยต้า ฝั่งขวาที่ขึ้นสุดลงสุดอย่างเห็นได้ชัด แถมในครึ่งหลัง นายใหญ่ชาวเยอรมันก็จัดการส่ง รูเบน ลอฟตัส ชีค มาเล่นวิงแบ็คขวาแทน กัปตันเดฟ แล้วก็คล้ายกับ ซาอูล ที่การทำเกมเห็นได้ชัดว่าเน้นความรัดกุมแล้วก็แทบไม่มีจังหวะลุ้นเปิดบอลให้เห็นเลยตามธรรมชาติของมิดฟิลด์ตัวกลาง ด้วยเหตุนั่นเองทำให้อาวุธร้ายของ เชลซี ที่เคยมีหายไป ด้วยเหตุว่าฉนั้นวันนี้ก็เป็นอีกรอบที่ซ้ำเติมว่ายังไงซะแผนอย่างงี้จำเป็นต้องมีวิงแบ็คธรรมชาติลงทำถึงจะเวิร์ค

2. ฮาเวิร์คซ์ กองหน้าอันดับหนึ่ง

เรียกได้ว่าตั้งตนเองขึ้นมาเป็นหัวหอกอันดับหนึ่งของทีมได้เป็นที่เรียบร้อยจากผลงานสุดโดดเด่นในพักหลัง ที่มีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้มี เมสัน เมานท์ มารอประสานงานเชื่อมเกมกัน ทำให้เกมรุกของ เชลซี ไหลลื่นเนียนตา แตกต่างกับการให้ ลูกากู ที่วันนี้ลงไปในสนามมาเป็นตัวสำรองลิบลับ แถมเกมนี้ก็ยังไม่เป็นผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ส่วนด้าน แวร์เนอร์ ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงก็เงียบสนิทแล้วก็ยังคงฝากผีฝากไข้เอาไว้ไม่ได้อีกเช่นเคย

3. นอริช อันตรายขั้นสุด

จากความแพ้พ่ายในนัดนี้ทำให้ นอริช ซิตี้ แพ้มาแล้ว 6 เกมติดต่อกันในลีกร่วงลงไปอยู่อันดับบ๊วยของตารางมีเพียงแค่ 17 คะแนนจากการลงเล่น 28 นัด ซึ่งน่าดึงดูดตรงที่ทีมอย่าง เบิร์นลีย์ อันดับ 18 แล้วก็ เอฟเวอร์ตัน อันดับ 17 ที่มีแต้มห่างกัน 4 แล้วก็ 5 แต้มตามลำดับ แต่ว่าทั้งสองทีมลงแข่งขันน้อยกว่าถึง 2-3 เกม นั่นจึงเป็นจุดที่ทีมของ ดีน สมิธ เสียเปรียบกว่าคู่แข่งขันด้วยเหตุว่าไม่เหลือเกมหลงเหลือในมืออีกแล้ว ซึ่งถ้าเกิดยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว ๆ นี้ เราก็คงจะได้เห็น นอริช ซิตี้ กลับลงไปทักทายเพื่อน ๆ ใน เดอะแชมเปี้ยนส์ชิพ ฤดูกาลหน้าอีกรอบอย่างแน่นอน